เคยเป็นกันไหมคะกับอาการคันยุบยิบ ๆ บริเวณผิวหนังเวลาที่เจอกับอากาศร้อนหรือตอนโดนแดด หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยผื่นแดง ยิ่งคันยิ่งเกาจนทำให้ผิวลอกตกสะเก็ด แสบคัน และเป็นรอยแผลเป็นตามมา อาการเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้เกิดอุปสรรคในการใช้ชีวิต แต่ยังทำให้ขาดความมั่นใจ เพราะผิวที่ไม่เรียบเนียน ซึ่งอาการเหล่านี้หลัก ๆ แล้วเกิดจากโรคผิวหนังที่มีอากาศร้อนเป็นตัวกระตุ้น ใครที่รู้สึกว่าตัวเองเข้าข่าย ลองมาเช็คลิสต์กันสักนิดว่าเกิดขึ้นจากอะไร จะได้แก้ไขได้ตรงจุด ก่อนที่ผิวจะเสียหาย และสายเกินแก้เอาได้

โรคผิวหนังที่เกิดขึ้นได้จากอากาศร้อนและแสงแดด

อาการของโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยแบ่งได้เป็นหลายประเภท ซึ่งที่ควรระมัดระวัง มีดังต่อไปนี้

1.การติดเชื้อบริเวณผิวหนัง – ถือว่าเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อหลายชนิด เช่น โรคกลาก เป็นต้น โรคเหล่านี้จะพบได้ในช่วงหน้าร้อน พบการติดเชื้อได้มากในบริเวณขาหนีบ รักแร้ และในร่มผ้า ซึ่งอาจเกิดจากการใส่เสื้อผ้าที่ไม่สะอาด และอับชื้นไม่แห้งติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็ทำให้เกิดการติดเชื้อได้เหมือนกัน

2.โรคผื่น – ผื่นคันและเป็นรอยแดงบริเวณผิวเมื่อสัมผัสกับอากาศร้อนมักมาจากการที่ต่อมเหงื่อถูกกระตุ้น ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากและเร็วกว่าปกติ เป็นผลทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน กลายเป็นอาการระคายเคือง รู้สึกคัน เมื่อเกาจะเริ่มมีผื่นแดงขึ้นมา หากอาการรุนแรงอาจลุกลามเป็นวงกว้างได้

3.โรคภูมิแพ้แสงแดด – เป็นอาการแพ้แสงแดดที่จะเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดแม้เพียงเล็กน้อย ก็จะเริ่มถูกกระตุ้น ทำให้เซลล์ผิวอักเสบ ยิ่งตากแดดเป็นเวลานาน ยิ่งทำให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้น กลายเป็นผื่นที่มีลักษณะนูน มีน้ำเหลืองไหลออกมา เกิดอาการคันอย่างมาก หากไม่รีบทำการรักษา สามารถลุกลามจนทำให้เป็นผื่นและคันทั้งตัวได้

4.มะเร็งผิวหนัง – มีสาเหตุที่มาจากผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดบ่อย โดยเฉพาะช่วงที่อากาศร้อนมาก รังสียูวีจะเข้าไปทำลายเซลล์ผิวชั้นใน ทำให้ผิวไหม้ เกิดแผลเป็นเรื้อรัง ซึ่งแผลดังกล่าวสามารถเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ ยิ่งใครที่มีประวัติครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมาก่อน โอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคยิ่งมากกว่าคนปกติสองเท่า

วิธีดูแลผิวให้แข็งแรง ช่วยเสริมเกราะป้องกันได้

จะเห็นได้ว่าอากาศร้อนเป็นสาเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มีผลต่อปัญหาผิวหนัง ตั้งแต่ระดับเล็กไปจนถึงขั้นรุนแรง ดังนั้นทางที่ดีคือการระมัดระวังตัวเอง และหมั่นดูแลผิวให้แข็งแรง จะได้ช่วยสร้างเกราะป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอ โดยมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก สาว ๆ สามารถทำได้ ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะแดดช่วงสายไปจนถึงช่วงบ่าย เพราะเวลาดังกล่าวจะมีแสงยูวีเข้มข้น รวมถึงการหลีกเลี่ยงอากาศที่ร้อนอบอ้าว ไม่อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้นาน ๆ

2.สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อบอ้าว และเหงื่อออกง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอับชื้นจากเหงื่อ

3.เมื่อต้องเดินทางออกไปข้างนอก อย่าลืมทาครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองทุกครั้ง กางร่ม และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ

4.เมื่อกลับจากข้างนอกให้ทำความสะอาดร่างกายโดยเร็วที่สุด ด้วยการอาบน้ำชำระร่างกาย เพื่อกำจัดเอามลพิษ สารเคมี และฝุ่นต่าง ๆ ที่เรามองไม่เห็น ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยลดอาการระคายเคืองของผิวให้น้อยลง เซลล์ผิวกลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

5.เน้นรับประทานอาหารบำรุงผิว เช่น วิตามินซี, วิตามินดี และวิตามินอี ให้เพียงพอ และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อลดการสูญเสียน้ำ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอดวัน

ทั้งนี้อย่าลืมคอยตรวจเช็คความผิดปกติของผิวหนัง แม้ว่าช่วงนั้นจะไม่ใช่ช่วงที่อากาศร้อนก็ตาม ถ้าหากพบสีผิวที่เปลี่ยนไป มีอาการเจ็บเมื่อกด ผิวหนังหนาขึ้น มีผื่นแดง ผิวมีลักษณะขรุขระ หรืออาการอื่น ๆ ที่ทำให้ลักษณะของผิวไม่เหมือนเดิม ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้ทราบสาเหตุ แล้วทำการรักษาได้ทันก่อนที่ผิวหนังจะเสียหายจนกู้กลับไม่ได้